การก่อสร้างบ้าน หรือส่วนต่อเติมขยายห้อง ที่รับน้ำหนักเครื่องจักร ที่ดีนั้นต้องมีการตอกเสาเพื่อรองรับน้ำหนักด้วยเสมอ แต่หากลงเสาเข็มไม่ได้มาตรฐานหรือเสาเข็มรับน้ำหนักไม่ได้อย่างที่คำนวนไว้จะเกิดปัญหาในอนาคตได้ เพราะหากปล่อยปละละเลยอาจส่งผลให้บ้านทรุดหรือเกิดปัญหาเชิงโครงสร้างขึ้นนะครับ วันนี้เราจะมาดูกันว่าถ้าก่อสร้างบ้านหรืออาคารถ้าเราพบปัญหาโครงสร้างเสาเข็ม ควรแก้ปัญหาอย่างไร และทำไมจึงควรนำไมโครไพล์เข้ามาช่วย
ก่อนอื่นเลยหากพบว่าบ้านของเราเกิดการติดตั้งเสาเข็มไม่ได้มาตรฐานจนทำให้โครงสร้างทรุด สิ่งแรกที่ควรทำก็คือแจ้งปัญหาไปยังวิศวกรหรือช่างที่มีความรู้เพื่อทำการประเมินความรุนแรงของกรณีที่เกิดขึ้นและหาวิธีแก้ไขที่เหมาะสม จากนั้นก็ต้องวัดระยะดูว่าการทรุดของบ้านที่เกิดขึ้นนั้นมีค่าเท่าไร หากมีค่าน้อยก็ต้องทำการออกแบบฐานรากใหม่ทั้งหมด แต่ถ้ามีค่ามากก็ต้องเจาะเสาเข็มใหม่หรือเจาะเสาเพิ่มแล้วแต่สภาพของหน้างาน
แต่อย่างไรก็ตามการเสริมฐานรากภายหลังเป็นสิ่งที่ทำค่อนข้างยากและบางทีหน้างานอาจจะแก้ไขภายหลังไม่ได้ เราจึงควรคำนวนการใช้ตอกเสาเข็มให้เพียงพอต่อการรับน้ำหนักของโครงสร้างไม่งั้นในอนาคตโครงสร้างทรุดจะมีค่าใช้จ่ายใรการซ้อมแซมที่สูงกว่ามาก ไมโครไพล์จึงเข้ามามีบทบาทในส่วนนี้ เพราะไมโครไพล์สามารถตอกได้ลึกและรองรับน้ำหนักได้มากโดยไม่ส่งผลกระทบต่อฐานรากเดิม นอกจากนี้ยังสามารถตอกชิดกำแพงได้อีกด้วย โดยการนำเสาไมโครไพล์มาช่วยรองรับน้ำหนักนั้นต้องให้วิศวกรหรือสถาปนิกคำนวณและออกแบบตำแหน่งที่เหมาะสมก่อน เพื่อให้สามารถถ่ายน้ำหนักมายังโครงสร้างเสาเข็มไมโครไพล์ได้ตามที่ตั้งใจ
หากเกิดเหตุการณ์โครงสร้างเอียงหรือแม้แต่บ้านทรุดขึ้นล่ะก็อย่าเพิ่งตกใจครับ เพราะปัญหาสามารถแก้ได้หากรู้ตัวเร็วและแก้ไขอย่างถูกวิธีด้วยการเลือกใช้วัสดุก่อสร้างที่ได้มาตรฐาน อย่าลืมว่างานโครงสร้าง งานเสาเข็ม คือหนึ่งในหัวใจหลักของการก่อสร้างอาคาร ดังนั้นหากเจอปัญหาต้องตัดสินใจและแก้ไขด้วยวิธีทางวิศวกรรมทันที เพราะไม่อย่างนั้นแล้วอาจทำให้บ้านหรืออาคารของเราเกิดการสูญเสียเสถียรภาพทางโครงสร้าง (STRUCTURAL STABILITY) ได้